รีวิวทริปหัวหิน พาไปดูรีวิวที่พักหัวหิน Ace of Hua Hin
รีวิวที่พักหัวหิน Ace of Hua Hin
ด้วยความที่ทำงานมาหนัก ไม่ได้หยุดพักเลยในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา วันหยุดสุดสัปดาห์นี้พอมีเวลา ก็เลยอยากจะขอไปพักผ่อน หนีความวุ่นวายกันสักคืน แต่คราวนี้ไม่อยากไปไกล ประกอบกับว่าต้องรีบกลับไปทำงานต่อ อยากหยุดมาพักแค่ชั่วคราว ก็เลยเลือกที่จะไปเที่ยวใกล้ๆ อย่าง “หัวหิน” ที่ขับรถไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง อีกทั้งยังมีที่พักหัวหินสวยๆ ให้เลือกมากมาย โดยทริปนี้เราจะเน้นการพักผ่อนที่แท้จริง จะอยู่แต่ในโรงแรม นอนอาบแดด เล่นน้ำให้ฟินกันไปเล้ย
สำหรับทริปนี้เราตัดสินใจเลือกที่พัก Ace of Huahin เพราะอยู่ไม่ไกลมาก อยู่ระหว่างเส้นชะอำ – หัวหิน จะขับรถไปหัวหิน หรือกลับไปชะอำก็ง่าย แถมอยู่นอกเมือง จึงมั่นใจได้เลยว่าจะไม่วุ่นวาย และมีความเป็นส่วนตัวแน่นอน แถมเห็นในรูปก่อนจอง ยังมีสระว่ายน้ำมีห้องพักแบบ Pool Access ที่ลงน้ำได้จากหน้าห้องได้เลย
การเดินทางไปหัวหิน
- ถ้าใครมีรถยนต์ส่วนตัวก็สบายหน่อย เพราะแค่ขับตรงๆ ออกทางถนนเพชรเกษม ออกทางมหาชัย สมุทรสาคร ทะลุเข้าจังหวัดเพชรบุรี และวิ่งทางหลวงหมายเลข 4 ยาวๆ ประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ก็จะถึงโรงแรมเลย ซึ่งตัวโรงแรมเองก็อยู่ถนนเส้นหลัก จุดสังเกตก็คือ Outlet Flynow
- สำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็ไม่ต้องกังวล เพราะว่าทางที่พักหัวหิน Ace of Huahin มีรถรับ-ส่ง จากบริเวณหอนาฬิกาในตัวเมืองหัวหิน คนที่นั่งรถตู้ หรือรถไฟมา ก็สามารถไปรอรถ Shuttler Bus ตรงบริเวณนั้นได้ โดยมีค่าบริการครั้งละ 50 บาท แต่ก็ถือว่าสะดวกมากเลยทีเดียว
จากกรุงเทพฯ เราก็มุ่งหน้าสู่หัวหินโดยใช้ถนนเส้นเพชรเกษมสายหลัก วิ่งตรงแบบยาวๆ ผ่านมหาชัย สมุทรสาคร และเพชรบุรี แต่เมื่อถึงแยกที่สามารถเลี้ยวไปทางปราณบุรีได้ ให้เลือกทางหลวงเส้นหมายเลข 4 เพราะเป็นเส้นผ่านเมือง จะไม่อ้อม และขับรถตรงๆ ยาวๆ ก็จะถึงโรงแรมเลย โดยใช้เวลาไม่นาน อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เราเลือกเส้นนี้ ก็เป็นเพราะว่าระหว่างทางมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกแวะมากมาย
Camel Republic
สวนอูฐสไตล์โมร็อคโค อยู่ตรงข้ามกับสวนน้ำซานโตรินี่ เห็นมาตั้งนานไม่เคยเข้าเลย ครั้งนี้ขอแวะหน่อยแล้วกัน เพราะกว่าจะถึงเวลาเช็คอิน เวลาก็ยังเหลือตั้งหลายชั่วโมง ความโดดเด่นของที่นี่ คือจะมีทั้งสวนสัตว์ ที่เราสามารถให้อาหารสัตว์ได้ทุกชนิดเลย และมีเครื่องเล่นหวาดเสียวให้เลือกเล่นมากมาย สำหรับค่าเสียหาย ค่าเข้าชมนั้นสนนราคา 120 บาทต่อคน (ราคาผู้ใหญ่) จะไม่สามารถเล่นเครื่องเล่นได้ จะต้องเสียเงินเพิ่ม และมีอาหารแพะแถมให้ 1 ซองถ้วน หรือใครเน้นมาให้อาหารสัตว์ ก็สามารถซื้อแพคเกจบัตรราคา 300 บาทได้ เพราะจะมีแถมดาวให้อาหารสัตว์ทั้งหมด 10 ดวง ซึ่งก็ถือว่าคุ้มอยู่
ด้านในจะมีสัตว์ให้ชมมากมาย เปรียบเสมือนเป็นสวนสัตว์ขนาดย่อม มีตั้งแต่ม้าแคระ อูฐ (ที่สามารถขึ้นขี่ได้จริง) ลูกยีราฟ เป็ด แพะ แกะ ไปจนถึงนกฟลามิงโก้ ก็มี ไฮไลท์คือที่ Camel Republic คุณสามารถใกล้ชิด และให้อาหารแกะได้หมดเลยทุกชนิด แต่ว่าจะต้องเสียเงินเพิ่มนะ
เราว่าการให้อาหารสัตว์ชนิดอื่นก็ดูจะธรรมดาไป ถ้าใครอยากตื่นตาตื่นใจหน่อย แนะนำให้ลองมาให้อาหารนกฟลามิงโก้ รับรองว่าตื่นเต้นแน่นอน เพราะเอาจริงๆ ไม่ว่าเราไปสวนสัตว์ไหน ก็ไม่เคยได้เข้าใกล้นกฟลามิงโก้ขนาดนี้มาก่อน เรียกได้ว่าใกล้ชิดสนิทสนม แบบแทบจะโดนตัวกันเลยทีเดียว ถ้าใครไม่กลัวนก แนะนำว่าให้ลอง!
Ace of Hua Hin
เดินทางมาถึงที่พักของเราในทริปนี้นั่นก็คือ Ace of Huahin อยู่ซอยเดียวกับโรงแรม Sheraton Huahin เลย พอเข้ามาถึงก็เจอกับทางเข้าใหญ่โตสุดอลังการ แค่ทางเข้าเราก็รู้แล้วว่าทั้งโรงแรมนี้คุมโทนสีน้ำเงิน-ขาว สำหรับใครที่ขับรถมา ก็สามารถจอดไว้ด้านล่างตรงลานจอดรถได้เลย ข้อดีก็คือเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย มีทำเลอยู่ติดทะเล และที่สำคัญคือห้องพักมีให้เลือกหลายแบบมาก ถ้ามาพักกันเป็นครอบครัวใหญ่ ก็มีห้องพักประเภท Pool Villa ด้วยนะ
ระหว่างที่เราทำการเช็คอิน ทางพนักงานต้อนรับก็จะนำ Welcome Drink มาให้ ซึ่งของโรงแรมนี้ จะเป็นน้ำอัญชันมะนาว ที่ดื่มแล้วรู้สึกเฟรชมาก สดชื่นสุดๆ สำหรับห้องพักที่เราจองมาในครั้งนี้ จะเป็นแบบ Pool Acess ที่เปิดประตูห้องออกมา ก็จะเจอกับสระว่ายน้ำ และสามารถกระโดดลงน้ำได้เลย แนะนำสำหรับคนที่จะมาเที่ยวแบบ Family Trip รับรองว่าเด็กๆ ต้องเลิฟสระว่ายน้ำอย่างแน่นอน
ถ้าใครชอบว่ายน้ำมากๆ หรืออยากจะได้บรรยากาศของความชิลล์ แนะนำให้เพิ่มเงินอีกนิด และจองที่พักประเภท Pool Acess ไปเลย รับรองว่าฟินแน่ เพราะคุณจะสามารถลงว่ายน้ำได้ทุกเวลา แถมการออกแบบของโรงแรม ยังทำให้คุณสามารถมองเห็นวิวทะเลได้จากในสระว่ายน้ำเลย เนื่องจากโรงแรมจะดีไซน์ให้เป็นทางตรง แม้จะยืนจากล็อบบี้ ก็สามารถมองเห็นวิวทะเลได้เช่นกัน
สำหรับความปลอดภัย ที่พัก Ace of Huahin จะใช้เป็นคีย์การ์ด ที่พนักงานโรงแรมได้เตือนเราไว้ว่า ถ้าหากจะลงเล่นน้ำในสระ ก็อย่าเปิดประตูทิ้งไว้นะคะ มิเช่นนั้นแอร์จะดับทันที เข้ามาในห้องก็จะเจอกับเตียงที่ค่อนข้างกว้าง และขนาดห้องที่กว้าง ไม่อึดอัดไม่คับแคบ ไฮไลท์ก็คือประตูบานเลื่อนกระจก ที่แค่เปิดประตูออกไป ก็เอาเท้าจุ่มน้ำได้เลย แต่ถ้าใครนอนด้านบนชั้น 2 ห้องพักก็จะไม่ติดสระว่ายน้ำนะ ข้อดีอีกอย่างคือสระว่ายน้ำที่นี่ น้ำไม่ลึกเกินไป เด็กโตหน่อยเล่นได้สบาย แต่ถ้าบ้านไหนมีเด็กเล็ก ก็ต้องเฝ้าหน่อย
ภายในห้องจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้พร้อม ทั้งโทรทัศน์แบบ Smart TV ที่สามารถดู youtube ได้ด้วย ไดร์เป่าผม และของใช้ในห้องน้ำแบบครบครัน ทั้งแชมพู ครีมนวด ครีมอาบน้ำ ที่โกนหนวด และแปรงสีฟัน หรือใครที่แพ็คกระเป๋ามาแล้วเสื้อยับก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเค้ามีเตารีดให้พร้อม
ข้อดีของที่พักแห่งนี้คือจะมีอ่างอาบน้ำในทุกห้อง แม้แต่ห้อง type ที่มีราคาถูกที่สุดก็ยังมีอ่างอาบน้ำให้ ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของที่พักแห่งนี้คือ ภายในห้องน้ำจะมีลำโพงพิเศษ ที่คุณสามารถกดให้เสียงจากโทรทัศน์ลอดเข้ามาดังข้างใน แล้วสามารถนอนแชร์อ่างดูโทรทัศน์ได้จากในห้องน้ำเลย
นอกจากจะเราจะมีสระอยู่หน้าห้องแล้ว ยังมีสระว่ายน้ำรวมส่วนกลางขนาดใหญ่ ที่มีความพิเศษตรงที่อยู่ติดกับริมชายหาด สามารถว่ายน้ำ พร้อมกับชมวิวทะเลไปพร้อมๆ กันได้ อ๋อ! สำหรับที่กลัวผม และผิวจะเสียจากคลอรีน ขอบอกเลยว่าหมดห่วงไปได้เลย เนื่องจากสระว่ายน้ำที่นี่จะเป็นน้ำเกลือเท่านั้น
จุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้เราเลือกมาพักที่นี่ คือมีชายหาดส่วนตัว สามารถเดินลงไปยังชายหาดโดยใช้เวลาไม่นาน เหมาะสำหรับคนที่อยากจะนอนอาบแดด หรือทำกิจกรรมทางทะเล ก็สามารถเดินมาหน้าหาดได้ เนื่องจากบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทดัง จึงทำให้ชายหาดมีความเป็นส่วนตัว และไม่พลุกพล่านมากเท่าไหร่ ซึ่งนับว่าเป็นข้อดี ของคนที่อยากได้ความสงบ
Breakfast
เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง เมื่อท้องอิ่มแล้ว เราก็เตรียมตัวออกเดินทาง กลับห้องไปแพ็คกระเป๋า เพื่อเช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก ถือว่าเป็นทริปที่ใช้เวลาทุกช่วงของวันหยุดได้อย่างคุ้มค่า ได้พักผ่อนจากงานที่หนัก และหากใครที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบไม่ต้องใช้เวลานานมากในการเดินทาง การเดินทางไปเที่ยวหัวหินเป็นอะไรที่แนะนำเลย เพราะขับรถไปไม่ไกล แถมยังมีที่พักหัวหินให้เลือกเพียบเลยหล่ะ